รถเทรลเลอร์มีกี่ประเภท? รู้จักประเภทต่างๆ และการใช้งาน

By |2024-08-30T11:42:47+07:00สิงหาคม 30th, 2024|News|

รถเทรลเลอร์ ยานพาหนะสำคัญในวงการขนส่งและโลจิสติกส์ ด้วยความสามารถในการบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ทำให้รถเทรลเลอร์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม รถเทรลเลอร์มีหลากหลายประเภท และมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้รถเทรลเลอร์ให้เหมาะกับลักษณะงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้ Jumlong จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทต่างๆ ของรถเทรลเลอร์ รวมถึงปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้งาน เพื่อให้การขนส่งมีประสิทธิภาพสูงสุด ประเภทของรถเทรลเลอร์ รถเทรลเลอร์มีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการขนส่งที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าทั่วไป วัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าพิเศษ มาทำความรู้จักกับประเภทหลักๆ ของรถเทรลเลอร์กัน 1. รถพ่วง รถพ่วง เป็นรถเทรลเลอร์ที่ประกอบด้วยรถหัวลากและตัวพ่วงที่สามารถแยกออกจากกันได้ มีลักษณะเด่นคือมีเพลาล้อตั้งแต่ 2 เพลาขึ้นไป ทำให้สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากและระยะทางไกล รถพ่วงมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง เพราะสามารถสลับหัวลากกับตัวพ่วงได้ตามความเหมาะสมของงาน 2. รถกึ่งพ่วง รถกึ่งพ่วงมีลักษณะคล้ายรถพ่วง แต่ตัวพ่วงจะมีเพลาล้อเพียงด้านท้าย ส่วนด้านหน้าจะพักน้ำหนักอยู่บนหัวลาก ทำให้มีความคล่องตัวในการขับขี่มากกว่ารถพ่วง เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลางถึงมาก และต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง เช่น การขนส่งในเมืองหรือพื้นที่จำกัด 3. รถสิบล้อ รถสิบล้อ เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีล้อ 10 ล้อ (รวมล้อหน้า) มีความแข็งแรงและสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าทั่วไป วัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าเทกอง รถสิบล้อมีความคล่องตัวสูงกว่ารถพ่วงและรถกึ่งพ่วง ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านขนาดได้ดีกว่า 4. รถพ่วงคอก รถพ่วงคอก เป็นรถเทรลเลอร์ที่มีโครงสร้างเป็นคอกสูง เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีปริมาตรมากแต่น้ำหนักไม่มากนัก เช่น สินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ หรือสินค้าที่ต้องการการระบายอากาศ รถพ่วงคอกมักมีประตูด้านข้างหรือด้านท้ายเพื่อความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า 5. รถเทรลเลอร์พื้นเรียบ รถเทรลเลอร์พื้นเรียบมีลักษณะเป็นพื้นเรียบไม่มีขอบ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีรูปทรงพิเศษ เช่น เครื่องจักร ยานพาหนะ หรือวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ รถประเภทนี้มีความยืดหยุ่นสูงในการบรรทุกสินค้าหลากหลายประเภท และสามารถใช้อุปกรณ์ยกหรือเครนในการขนถ่ายสินค้าได้สะดวก รถเทรลเลอร์ที่นิยมใช้งาน ในประเทศไทย รถเทรลเลอร์ที่นิยมใช้งานมากที่สุดได้แก่ [...]

เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับงานคอนกรีต และส่วนผสมหลักที่ใช้

By |2024-08-30T11:38:33+07:00สิงหาคม 30th, 2024|News|

คอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีบทบาทสำคัญในงานก่อสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน ถนน สะพาน หรือโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ความแข็งแรงและความทนทานของคอนกรีตขึ้นอยู่กับส่วนผสมและกระบวนการผลิตที่เหมาะสม การเรียนรู้เกี่ยวกับคอนกรีตและส่วนผสมหลักจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง วันนี้ Jumlong จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคอนกรีต ส่วนผสมหลัก วิธีการผสม การบ่ม รวมถึงปัญหาที่อาจพบได้ในงานคอนกรีต คอนกรีตคืออะไร ? คอนกรีตเป็นวัสดุผสมที่ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ มวลรวม (หินและทราย) น้ำ และในบางกรณีอาจมีสารผสมเพิ่มเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติ เมื่อผสมกันแล้ว ส่วนผสมเหล่านี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้คอนกรีตแข็งตัวและมีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ส่วนผสมหลักของคอนกรีต ส่วนผสมคอนกรีต หลัก ๆ แล้วจะใช้วัตถุดิบอยู่ 4 อย่าง คือ ปูนซีเมนต์ หินทราย หินกลม และน้ำ โดยจะเป็นการนำมาผสมรวมกันในสัดส่วนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง โดยวัตถุดิบทั้งหมดจะมีรายละเอียดที่ต้องคำนึงดังนี้ ประเภทของปูนซีเมนต์ที่ใช้ ปูนซีเมนต์เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นตัวประสานในคอนกรีต มีหลายประเภท เช่น ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดา ใช้ในงานทั่วไป ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสม มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ทนซัลเฟตหรือความร้อนต่ำ ปูนซีเมนต์ด่วน แข็งตัวเร็ว เหมาะกับงานเร่งด่วน ประเภทของหินทรายที่ใช้ ทรายเป็นมวลรวมละเอียดที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างในคอนกรีต มีทั้งทรายแม่น้ำและทรายบก โดยทรายที่ดีควรมีความสะอาด ปราศจากสิ่งเจือปน และมีขนาดเม็ดสม่ำเสมอ ประเภทของหินกลมที่ใช้ หินเป็นมวลรวมหยาบที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้คอนกรีต มีทั้งหินกลมและหินย่อย โดยขนาดของหินจะขึ้นอยู่กับประเภทของงาน เช่น หินเบอร์ 1, 2 หรือ 3 ปริมาณ และน้ำที่ใช้ น้ำเป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาไฮเดรชันกับปูนซีเมนต์ ปริมาณน้ำที่ใช้มีผลต่อความแข็งแรงและการทำงานได้ของคอนกรีต โดยทั่วไปใช้อัตราส่วนน้ำต่อปูนซีเมนต์ (W/C Ratio) ประมาณ 0.4-0.6 สัดส่วนผสมคอนกรีต สัดส่วนผสมคอนกรีตจะแตกต่างกันไปตามประเภทของงานและคุณสมบัติที่ต้องการ โดยทั่วไปมักใช้สัดส่วนดังนี้ [...]

วัฒนธรรมองค์กร คืออะไร สำคัญยังไงในธุรกิจขนส่ง

By |2024-08-26T11:55:12+07:00สิงหาคม 26th, 2024|News|

วัฒนธรรมองค์กรคืออะไร มีความสำคัญต่อองค์กร องค์กรหนึ่งมากน้อยแค่ไหน มารู้จักความหมายของวัฒนธรรมองค์กรกัน! วิธีสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรงสามารถทำอย่างไรได้บ้าง และมาดูความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรในธุรกิจขนส่งกันว่ามีความสำคัญอย่างไร มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน มาเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลย! ความหมายของวัฒนธรรมองค์กร วัฒนธรรมองค์กร คือ สิ่งที่องค์กรนั้นๆ กำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติร่วมกันของคนในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหรือพนักงาน อาจจะปรากฏในรูปแบบที่มองเห็นได้ เช่น สัญลักษณ์ต่างๆ การแต่งกายหรือสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความเชื่อ ค่านิยม และการเรียนรู้ของคนในองค์กร วัฒนธรรมองค์กรแบบตั้งใจสร้างจะมีการส่งเสริมชุดค่านิยมพฤติกรรมและแนวทางปฏิบัติอย่างมีจุดประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะสนับสนุนผลลัพธ์ที่ทำให้องค์กรก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น วิธีสร้างวัฒนธรรมในองค์กรให้แข็งแรง ส่งวิธีสร้างวัฒนธรรมในองค์กรให้เข้มแข็งนั้นต้องเกิดจากการร่วมมือร่วมใจของพนักงานในองค์กรทุกฝ่ายโดยที่ต้องเริ่มจาก กำหนดค่านิยมหลักขององค์กร กำหนดค่านิยมหลักขององค์กรเพื่อเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมและทัศนคติของพนักงานหากพนักงานทุกคนมีค่านิยมเดียวกันก็จะทำให้พนักงานเป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้นและทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานหรือการพัฒนาของบริษัทก้าวหน้าได้มากขึ้น สื่อสารวัฒนธรรมองค์กรอย่างชัดเจน การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรงนั้นจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการสื่อสารให้ชัดเจนและสม่ำเสมอไม่ใช่เพียงแค่เป็นคำพูดลอยๆเท่านั้นแต่ต้องเป็นกฎที่ทุกฝ่ายต้องกระทำและเป็นการตัดสินใจร่วมกันของคนทั้งบริษัท   ผู้นำเป็นแบบอย่างที่ดี แบบอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำขอเป็นคำพูดที่เกินจริงยิ่งสำหรับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เข้มแข็งนั้นผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อให้พนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้จำวัฒนธรรมองค์กรนั้น ๆ และนำไปปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง ฟังเสียงของพนักงาน การสร้างวัฒนธรรมองค์กรนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความคิดเห็นของคนใดคนหนึ่งในองค์กรแต่จำเป็นต้องเป็นความต้องการที่มีร่วมกันของพนักงานในองค์กรทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารฝ่ายบุคคลหรือพนักงานแผนกต่างๆเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและสามารถปฏิบัติต่อได้ดีในอนาคต สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดีมีผลต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นบวกส่งเสริมการทำงานร่วมกันเคารพกัน เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันในการทำงานจะช่วยส่งผลให้การสร้างวัฒนธรรมองค์กรมีประสิทธิภาพและทำให้การทำงานบรรลุถึงเป้าหมายได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรในธุรกิจขนส่ง ในธุรกิจการขนส่งนั้น วัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน หากคนขับรถบรรทุกทุกคนมีค่านิยมและพฤติกรรมที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน ก็จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  รวมถึงการการสร้างความผูกพันและความจงรักภักดีต่อองค์กรด้วย  วัฒนธรรมองค์กร คือ สิ่งที่องค์กรมองข้ามไม่ได้ เริ่มจากการสร้างค่านิยมที่ไปในทิศทางเดียวกัน หัวหน้างานเป็นตัวอย่างที่ดี มีสิ่งแวดล้อมในการทำงานเหมาะสม ความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรเพื่อส่งเสริมการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฝากทิ้งท้ายสำหรับใครที่ต้องการสมัครขับรถ เพื่อร่วมงานและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งไปพร้อมกันกับ Jumlong สามารถติดต่อได้เลย! รับรองว่าสวัสดิการดี ค่าตอบแทนดี การันตีรายได้ !

รู้จักกับการบ่มคอนกรีต ตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้าง

By |2024-08-26T11:40:37+07:00สิงหาคม 26th, 2024|News|

มารู้จักกับการบ่มคอนกรีตกันสักนิด การบ่มคอนกรีตคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรที่ต้องศึกษา ต้องเลือกการบ่มคอนกรีตแบบไหน ต้องเรียนรู้ประเภทของการบ่มคอนกรีตประเภทว่ามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรและระยะเวลาที่เหมาะสมในการบ่มคอนกรีตแต่ละประเภทต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ เพื่อให้โครงสร้างอาคารออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด การบ่มคอนกรีตคืออะไร การบ่มคอนกรีต คือ การป้องกันไม่ให้น้ำในเนื้อคอนกรีตระเหยเร็วเกินไป ช่วยในคอนกรีตเซตตัวได้ดีขึ้น ป้องกันการแตกและแห้งหลังคอนกรีต ทำให้เป็นคอนกรีตมีความแข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดี และยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้ด้วย  ความสำคัญของการบ่มคอนกรีต ความสำคัญของการบ่มคอนกรีต คือ เป็นการควบคุมและป้องกันไม่ให้น้ำส่วนที่เหลือจากการทำปฏิกิริยาไฮเดรชันของซีเมนต์อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อการพัฒนาและอัดคอนกรีตได้อย่างต่อเนื่อง ลดการหดตัวของคอนกรีตและจะทำให้คอนกรีตมีความทนทานและป้องกันการแตกร้าวได้ดี 3 ประเภทของการบ่มคอนกรีต การบ่มคอนกรีตนั้นมีการสื่อรูปแบบโดยที่แต่ละรูปแบบก็มีการเพิ่มความชื้นและคอนกรีตการป้องกันการเสียน้ำและการเร่งการผ่าตัดแตกต่างกันไป  บ่มด้วยการเพิ่มความชื้น วิธีบ่มคอนกรีตแบบเพิ่มความชื้นลงบนผิวคอนกรีตนั้นส่วนใหญ่จะทำต่อเนื่อง 7 วันเพื่อควบคุมความชื้นไว้ให้มากที่สุดสามารถทำได้โดยการฉีดน้ำ รดน้ำ การหล่อน้ำ การคุมด้วยความเปียกชื้น เป็นต้น บ่มด้วยการกักเก็บความชื้น ต่อมาคือการบ่มคอนกรีตด้วยการกักเก็บความชื้นเป็นวิธีที่สะดวกและทนทาน เป็นวิธีการบ่มคอนกรีตที่เปลี่ยนจากการทดแทนน้ำมาเป็นการป้องกันน้ำไม่ให้ระเหยออกจากคอนกรีตเป็นการรักษาน้ำให้อยู่บนพื้นผิวคอนกรีตให้นานที่สุดอาจจะใช้พลาสติกหรือกระดาษซึมคุมพื้นผิวเอาไว้ให้สนิททำตอนที่ที่ยังไม่ได้แกะแบบลอกออกหรือจะใช้น้ำบ่มคอนกรีตเป็นตัวช่วยก็ได้พอสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน บ่มด้วยอุณหภูมิสูง วิธีการบ่มคอนกรีตวิธีนี้ เป็นวิธีการบ่มคอนกรีตสำหรับงานคอนกรีตสำเร็จรูปและงานอุตสาหกรรม เป็นการใช้ความชื้นและความร้อน บ่มคอนกรีตด้วยไอน้ำความดันต่ำหรือความดันสูงก็ได้จะช่วยให้คอนกรีตมีกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหดตัวน้อยลงมีการต้านทานได้ดีขึ้นและยันทนต่อสารเคมีด้วย ระยะเวลาที่เหมาะสมในการบ่มคอนกรีต สำหรับระยะเวลาในการบ่มคอนกรีตนั้นอยู่ที่ว่าประเภทงานเป็นงานประเภทไหนโดยที่  งานทั่วไป เสา คาน กำแพง 4-7 วัน งานพื้น 4-8 วัน เสาเข็ม 7-21 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของการผสมปูน งานพิเศษ รูปหล่อเล็ก แผ่นบางๆ ใช้เวลาบ่ม 7-21 วัน อยู่ที่ประเภทของงานและการผสมปูน อยากได้อาคารที่แข็งแรงทนทานต้องดูแล้วแหละว่าการบ่มคอนกรีตมีความสำคัญอย่างไร การบ่มคอนกรีตทั้ง 3 แบบให้ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ระยะเวลาในการบ่มนั้นอยู่ที่ลักษณะงานและการผสมปูน และฝากทิ้งท้ายกันไว้สักนิดหากใครที่ต้องการคอนกรีต หิน ดิน ทรายคุณภาพ ติดต่อ จำลอง Jumlong คอนกรีตคุณภาพมาตรฐานสากล คุยง่าย สบายใจ เรื่องหิน ดิน ทราย [...]

ตอบข้อสงสัยใบขับขี่กี่ประเภท

By |2024-08-22T10:25:59+07:00สิงหาคม 22nd, 2024|News|

ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับใบขับขี่กัน! ใบขับขี่มีความสำคัญอย่างไร ใบขับขี่มีกี่ประเภทแต่ละประเภทมีอายุการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ใบขับขี่รถประเภทต่างๆ มีลักษณะข้อบังคับอย่างไร วันนี้เราเอาเรื่องราวเกี่ยวกับใบขับขี่รถแต่ละประเภทมาให้คุณได้หาคำตอบแล้วอย่างละเอียด ความสำคัญของใบขับขี่ ใบขับขี่ คือ บัตรประจำตัวที่ยืนยันว่าคนที่ขับขี่รถประเภทนั้นๆ มีคุณสมบัติครบถ้วนในการขับขี่ มีหลายประเภทแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ และแต่ละประเภทก็มีมาตรฐานในการประเมินความสามารถแตกต่างกันไป ตามลักษณะรถและกฎหมายจรากรข้อบังคับของรถประเภทนั้นๆ  ประเภทของใบขับขี่ในประเทศไทย สำหรับใบขับขี่ในประเทศไทยนั้นแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ใบขับขี่ ประเภท บ. (ส่วนบุคคล) สำหรับใบขับขี่ประเภทนี้คือใบอนุญาตขับขี่ขนส่งสำหรับส่วนบุคคล หรือทำการขนส่งเพื่อการค้าในธุรกิจส่วนตัว มีการจำกัดน้ำหนักในการขนส่งไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม และไม่เป็นรถที่ใช้ในการรับจ้าง โดยแบ่งออกเป็น    ใบขับขี่รถชนิดชั่วคราว ใบขับขี่มีกี่ประเภทกันนะ? สำหรับใบขับขี่ชนิดชั่วคราวนั้น มีอยู่ 3 แบบ คือ ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว, ใบขับขี่ขับรถยนต์สามล้อชั่วคราว,และใบขับขี่ขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว มีอายุในการใช้งาน 2 ปี สามารถทำได้เมื่ออายุครบ 18 ปี   ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ใบขับขี่ประเภทนี้มีอายุในการใช้งาน 5 ปี เป็นใบขับขี่ที่เอามาต่ออายุหลังจากใช้ใบขับขี่ชนิดชั่วคราวครบอายุการใช้งาน    ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล ใบขับขี่ประเภทนี้คล้ายกับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล คือมีการทำแบบชั่วคราวก่อนแล้วเมื่อครบกำหนดแล้วสามารถนำมาต่ออายุเป็นแบบ 5 ปีได้  ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล หลังจากได้รับใบขับขี่ชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี สามารถนำมาต่ออายุเป็นใบขับขี่จักรยานยนต์แบบ 5 ปีได้  ใบขับขี่รถระหว่างประเทศ ใบขับขี่ประเภทนี้เรียกอีกชื่อว่า ใบขับขี่สากล คือบุคคลที่มีใบขับขี่รถส่วนบุคคลอยู่แล้ว และมีสำเนาหนังสือเดินทางประกอบเพื่อยื่นเรื่องการทำใบขับขี่ประเภทนี้ มีอายุ 1 ปี ใช้ได้ในประเทศที่ยอมรับการใบขับขี่ประเภทสากล  ใบขับขี่ประเภท ท. (ทุกประเภท) ใบขับขี่ประเภทนี้คือการขับขี่ขนส่งที่ใช้งานได้ทุกประเภท สามารถใช้เคลื่อนย้าย ทำการขนส่งไม่จำกัดน้ำหนัก และยังใช้ในการรับจ้างได้ด้วย [...]

ประเภทของแบบหล่อคอนที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

By |2024-08-22T10:19:29+07:00สิงหาคม 22nd, 2024|News|

มาทำความรู้จักกับแบบหล่อคอนกรีตให้ลึกลงอีกนิด ขั้นตอนสำคัญในการทำโครงสร้างของบ้าน แบบคอนกรีตคืออะไร มีแบบไหนให้คุณได้เลือกบ้าง แล้วแบบไหนที่จะเหมาะสมกับโครงสร้างบ้านหลังใหม่ของคุณที่สุด พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของคอนกรีตแต่ละแบบกันชัดๆ   แบบหล่อคอนกรีตคืออะไร  แบบหล่อคอนกรีต คือ แม่พิมพ์หรือโครงสร้างชั่วคราวที่ทำขึ้นมาเพื่อปรับรูปร่างให้คอนกรีตเป็นรูปร่างที่เหมาะสมและหลังจากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มกำลังอัดจนโครงสร้างคอนกรีตสามารถรับแรงอัดได้สมบูรณ์ที่สุด สามารถทนต่อแรงต้านทานต่างๆ ที่จะมากระทบได้  ความสำคัญของแบบหล่อคอนกรีต ความสำคัญของแบบหล่อคอนกรีต คือ อุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างบ้านหรืออาคารตั้งแต่รากฐาน เสา จนถึงผนัง ทำให้การเลือกวัสดุที่เอามาทำแบบคอนกรีตจะต้องทนทาน ทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้ได้โครงสร้างอาคารที่สมบูรณ์มั่นคงที่สุด ประเภทของแบบหล่อคอนกรีต อย่างที่บอกมาแล้วว่าการเลือกประเภทของแบบหล่อคอนกรีตจะต้องเลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน แต่ก็สามารถทำจากวัสดุได้หลายประเภท แต่ละประเภทจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันการ เริ่มจาก แบบหล่อไม้ ในอดีตแบบหล่อคอนกรีตแบบไม้ ได้รับความนิยมมากๆ เพราะว่าผลิตง่าย ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีซับซ้อนอะไรสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกเพราะว่ามีน้ำหนักเบา และยังมานำมาใช้ซ้ำได้ถึง 3-4 ครั้ง ราคาก็ถูก แต่ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเพราะเริ่มหายากและมีราคาสูงขึ้น ข้อดีและข้อเสีย ข้อดีของแบบหล่อคอนกรีตที่ทำจากไม้คือสามารถตัดต่อประกอบรูปร่างได้มีน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายสะดวก สำหรับข้อเสียคือสามารถนำมาใช้ซ้ำได้เพียง 3-4 ครั้งก็ต้องเปลี่ยนแบบใหม่แล้ว เพราะมีความทนทานไม่มากพอที่จะใช้งานเป็นระยะเวลานาน และยังเป็นการตัดไม้ ทำลายสภาพแวดล้อม  เหมาะกับงานแบบไหน แบบหล่อคอนกรีตแบบไม้เหมาะกับงานหล่อพื้น ที่มีพื้นที่กว้างหรือผนังคอนกรีต เพราะแบบหล่อคอนกรีตแบบไม้สามารถทำแบบหล่อที่มีรูปร่างโครงได้ดี แบบหล่อเหล็ก แบบหล่อคอนกรีตเหล็กเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายสามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้งช่วยประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างมีความหนาให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต แข็งแรง ทนทาน คอนกรีตที่ได้มีพื้นผิวที่เรียบเนียน   ข้อดีและข้อเสีย ข้อดีของแบบหลอกคอนกรีตที่ทำด้วยเหล็กคือด้านคอนกรีตที่ผิวเรียบเนียนประหยัดงบในการก่อสร้างสามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้ง ส่วนข้อเสียคือจะต้องดูแลดีเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการเกิดสนิม และมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เคลื่อนย้ายไม่สะดวก เหมาะกับงานแบบไหน เหมาะกับงานที่ไม่ต้องดัดแปลงรูปร่าง เช่น พื้นเรียบ  แบบหล่อพลาสติก หากงานใดที่ต้องเน้นคุณภาพให้พื้นผิวสวยงาม พร้อมประหยัดต้นทุน แนะนำเป็นแบบหล่อคอนกรีตพลาสติกสำหรับงานก่อสร้างจะดีที่สุดเพราะสามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้งมากๆแต่จะมีราคาค่อนข้างสูง จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก ข้อดีและข้อเสีย สำหรับข้อดีของแบบหล่อคอนกรีตพลาสติกนั้นคือสามารถนำมาใช้ได้หลายครั้งได้รูปหล่อพลาสติกที่ออกมาสวยงามประหยัดต้นทุน ส่วนข้อเสียคือ มีราคาที่แพงกว่าแบบคอนกรีตแบบอื่น เหมาะกับงานแบบไหน แบบหล่อคอนกรีตพลาสติกเหมาะกับงานที่ต้องการให้พื้นผิวคอนกรีต สวยงาม แบบหล่อคอนกรีตอะลูมิเนียม แบบหล่อสุดท้ายคือแบบหล่อคอนกรีตอะลูมิเนียม เป็นแบบหล่อที่นิยมใช้หากมีการสร้างอาคารสูง ใช้ซ้ำได้หลายรอบ [...]

แผ่นพื้นสำเร็จรูปคืออะไร มีกี่ประเภท พร้อมวิธีการติดตั้งให้แข็งแรง ทนทาน

By |2024-07-23T17:51:30+07:00กรกฎาคม 23rd, 2024|News|

งานก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน พื้น หรือโครงสร้างต่าง ๆ ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ใช้วัสดุก่อสร้างอย่าง “แผ่นพื้นสำเร็จรูป” ที่อำนวยทั้งความสะดวก และยังช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้เยอะขึ้นเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ งานที่ออกมายังมีประสิทธิภาพ แข็งแรงและทนทานมาก ๆ อีกด้วย วันนี้ จำลอง กรุ๊ป จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแผ่นพื้นสำเร็จรูปว่าคืออะไร มีกี่ประเภทและสามารถช่วยให้งานก่อสร้างมีประสิทธิภาพอย่างได้บ้าง แผ่นพื้นสำเร็จรูปคืออะไร แผ่นพื้นสำเร็จรูป (Pre-Stressed Concrete Slab) คือ แผ่นพื้นคอนกรีตที่ถูกผลิตขึ้นมาจากโรงงาน ให้พร้อมใช้งานและติดตั้งที่หน้างานก่อสร้างได้ โดยจะหล่อขึ้นมาจากคอนกรีตและเสริมด้วยลวด อัดด้วยแรงกำลังสูง จึงมีความแข็งแรง ทนทานและสามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ โดยแผ่นพื้นสำเร็จรูปมีลักษณะถูกหล่อและอัดขึ้นมาเป็นแผ่นที่พร้อมใช้งานแล้ว ในงานก่อสร้างโครงสร้าง อย่างเช่น บ้านหรืออาคารที่อยู่อาศัย ก็สามารถนำแผ่นคอนกรีตนี้มาติดตั้งและเทคอนกรีตทับหน้าอีกรอบเพื่อเสริมความแข็งแรงได้เลย แผ่นพื้นสำเร็จรูปมีกี่ประเภท แผ่นพื้นสำเร็จรูปก็ถูกออกแบบ และผลิตขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ มีคุณสมบัติซึ่งเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. แผ่นพื้นสำเร็จรูปแบบกลวง แผ่นพื้นสำเร็จรูปแบบกลวง (Hallow Core) คือแผ่นพื้นที่ถูกออกแบบมาให้มีรูกลวงอยู่ตรงกลาง ตามแนวยาวของแผ่นคอนกรีต นิยมใช้ในงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องรองรับน้ำหนักเยอะ ๆ เช่น คอนโด หรืออาคารสูง เป็นต้น ทั้งนี้ แผ่นคอนกรีตแบบกลวงจะมีน้ำหนักเบาเนื่องจากรูตรงกลาง ทำให้ขนย้ายและใช้ในงานก่อสร้างได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกใช้งานได้ตามความหนาและความกว้างที่ต้องการได้ 2. แผ่นพื้นสำเร็จรูปแบบสามขา แผ่นพื้นสำเร็จรูปแบบสามขา (Corrugated Planks) หรือแผ่นพื้นคอนกรีตท้องลอน โดยด้านหนึ่งจะตันและมีความเรียบ และอีกด้านหนึ่งจะมีลักษณะเป็นลอนเว้า 3 ขาเพื่อช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น มีความหนาถึง 7 เซนติเมตร นิยมใช้ในงานติดตั้งพื้นที่เป็นฐาน ทำให้ไม่ต้องใช้ไม้ค้ำยันในการติดตั้ง ช่วยประหยัดงบและประหยัดเวลาในการทำงานขึ้น 3. แผ่นพื้นสำเร็จรูปแบบตัน [...]

คอนกรีตผสมเสร็จคืออะไร แตกต่างจากคอนกรีตผสมเองอย่างไร

By |2024-07-23T17:41:20+07:00กรกฎาคม 23rd, 2024|News|

ในงานก่อสร้างประเภทต่าง ๆ คอนกรีตถือเป็นวัสดุหลักในการสร้างโครงสร้างที่แข็งแรงเลยทีเดียว แต่เคยสงสัยไหมว่าคอนกรีตผสมเสร็จ คืออะไร และแตกต่างจากคอนกรีตประเภทอื่นอย่างไร วันนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับคอนกรีตผสมเสร็จ พร้อมบอกประโยชน์และความแตกต่าง เพื่อให้คุณได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานก่อสร้างของคุณ คอนกรีตผสมเสร็จคืออะไร คอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-Mixed Concrete) คือคอนกรีตสำเร็จรูปที่ทางโรงงานผลิตได้คิดค้นสูตร และผสมมาแล้วเรียบร้อย เพื่อให้ได้คุณภาพและสัดส่วนที่เหมาะสำหรับงานก่อสร้างประเภทต่าง ๆ โดยจะประกอบไปด้วยส่วนผสมคอนกรีต เช่น ปูนซีเมนต์ ทรายก่อสร้าง หินก่อสร้างและน้ำ เป็นต้น โดยคอนกรีตชนิดนี้ ผสมเสร็จมาจากโรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดระยะเวลาการขนส่งก็จะมีรถกวนคอนกรีตคอยกวนหรือผสมเนื้อคอนกรีตให้เข้ากันอยู่ตลอดระยะเวลาการขนส่ง เพื่อรักษาคุณภาพของคอนกรีตให้สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาผสมคอนกรีตเอง คอนกรีตผสมเสร็จมีกี่ประเภท เนื่องจากเป็นคอนกรีตผสมเสร็จที่ทางโรงงานคิดค้นสูตรขึ้นมา จึงสามารถแบ่งออกได้หลากหลายประเภท ตามการใช้งาน ความแข็งแรงและทนทานในงานที่ต้องการได้ดังนี้ 1. คอนกรีตผสมเสร็จแบบมาตรฐาน เหมาะสำหรับงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เสา ฐานราก หรือคาน ที่สามารถรับน้ำหนักได้เยอะ 2. คอนกรีตผสมเสร็จแบบกันซึม เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องสัมผัสกับความชื้น เช่น สระว่ายน้ำ พื้นห้องน้ำ ถังเก็บน้ำ เป็นต้น เป็นสูตรคอนกรีตผสมที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะทึบน้ำ จึงมีคุณสมบัติทำให้น้ำไหลผ่านได้ยาก 3. คอนกรีตผสมเสร็จแบบสี เหมาะสำหรับการใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการความสวยงาม เช่น ทางเดินเท้า ลานกว้าง เป็นต้น เพราะคอนกรีตประเภทนี้ มีการผสมสีที่ต้องการมาแล้วในตัว สามารถเทลงบนพื้นได้เลย 4. คอนกรีตผสมเสร็จแบบพรุน เหมาะสำหรับงานก่อสร้างถนน หรือพื้นที่ที่จำเป็นต้องระบายน้ำได้ดี เนื่องจากคอนกรีตผสมเสร็จแบบพรุนจะมีช่องว่างภายในตัวคอนกรีตอยู่ ซึ่งมีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดี ไม่อุ้มน้ำ 5. คอนกรีตผสมเสร็จแบบผิวเรียบ เหมาะสำหรับงานที่ต้องโชว์พื้นผิวของชิ้นงาน เช่น เสา หรือตอม่อ โดยมีคอนกรีตผสมเสร็จแบบผิวเรียบ มีคุณสมบัติที่สามารถทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี รวมทั้งมีความแข็งแรง สามารถรองรองรับน้ำหนักได้ดี 6. [...]

คอนกรีตผสมคืออะไร มีวิธีการคำนวณส่วนผสมคอนกรีตอย่างไร

By |2024-07-23T17:28:22+07:00กรกฎาคม 23rd, 2024|News|

โครงสร้างที่แข็งแรงมาจากวัสดุก่อสร้างในส่วนผสมคอนกรีตที่ได้มาตรฐานและคุณภาพ แต่ก่อนจะได้งานก่อสร้างที่มีความมั่นคง และแข็งแรงขนาดนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักว่าการผสมคอนกรีตคืออะไร มีกี่ประเภท รวมถึงวิธีการบ่มคอนกรีตให้ดีและมีประสิทธิภาพ การผสมคอนกรีตคืออะไร การผสมคอนกรีต เป็นการผสมกันระหว่างปูนซีเมนต์ ทรายก่อสร้าง และหินก่อสร้างเข้าด้วยกัน โดยจะเรียกว่าส่วนผสมคอนกรีต ซึ่งนิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้างโครงสร้าง เช่น อาคาร บ้านและคอนโด เป็นต้น มีคุณสมบัติแข็งแรง ต้องสามารถรองรับน้ำหนักได้มาก การผสมคอนกรีตมีกี่ประเภท การผสมคอนกรีตหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน แต่ละประเภทจะแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะสมกับงานประเภทไหนบ้าง การผสมโดยน้ำหนัก วิธีการผสมคอนกรีตโดยการชั่งน้ำหนัก จะได้สัดส่วนที่ถูกต้อง วิธีนี้จะเหมาะกับงานที่ต้องใช้แรงอัดสูง เหมาะกับงานก่อสร้างใหญ่ที่รองรับน้ำหนักได้เยอะ ๆ  การผสมโดยปริมาตร วิธีนี้ก็จะได้ส่วนผสมคอนกรีตที่แน่นอนและสม่ำเสมอเหมือนกับการผสมน้ำหนักเช่นกัน แต่จะเหมาะกับงานก่อสร้างทั่วไป ที่ไม่ได้ต้องใช้แรงอัดสูงมาก ส่วนผสมคอนกรีต โดยส่วนผสมคอนกรีตที่นิยมใช้หลัก ๆ ในงานก่อสร้างก็จะมีอยู่ทั้งหมด 4 อย่างด้วยกัน ดังนี้ ปูนซีเมนต์ ควรเลือกใช้ปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพ เพราะจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับคอนกรีต หินก่อสร้าง หินที่ดีในการใช้ผสมคอนกรีต ต้องเป็นหินที่มีขนาดพอดี และสะอาด ปราศจากสิ่งสกปรกเจือปน ไม่มีเศษดินหรือเศษวันพืชผสมเข้ามา มีผิวขรุขระและความเหลี่ยมคม ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับการเทคอนกรีตเป็นอย่างมาก ทรายก่อสร้าง ต้องเป็นทรายสำหรับใช้ในงานก่อสร้างเท่านั้น การเลือกใช้ทรายในงานก่อสร้างจำเป็นต้องเลือกทรายที่มีการจับตัวกันแน่น เพื่อความแข็งแรงและทนทานของคอนกรีต น้ำ ส่วนผสมคอนกรีตที่จะช่วยให้วัสดุทุกอย่างผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างดี แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้ เช่นกัน หากใช้ในจำนวนที่มากเกินไปก็จะทำให้ส่วนผสมมีความเหลว ทำให้คุณภาพคอนกรีตลดลงได้ อัตราส่วนผสมคอนกรีต งานโครงสร้างก็มีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพื้น เสา ถนน ฯลฯ งานก่อสร้างแต่ละประเภทก็จะใช้จำนวนอัตราส่วนผสมคอนกรีตที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะใช้หน่วยเรียกว่า คิว (คิวบิกเมตร) โดยสามารถคำนวณส่วนผสมด้วยสูตรปูนตามความกว้าง x ความยาว x ความหนา [...]

อยากขับรถบรรทุก ยึดเป็นอาชีพหลักต้องเริ่มยังไงดี

By |2024-07-23T17:18:08+07:00กรกฎาคม 23rd, 2024|News|

สำหรับคนที่อยากขับรถบรรทุกเป็นอาชีพ เพราะเห็นจากเวลาเราขับรถไปต่างจังหวัด ตามถนนเส้นหลักที่เราวิ่งผ่านก็มักจะเห็นพี่ ๆ รถบรรทุกหรือพี่ใหญ่กันอยู่เต็มไปหมด จริง ๆ แล้วพี่ ๆ รถบรรทุกเป็นเส้นทางสายคมนาคมหลักที่ช่วยลำเลียงของและสินค้าต่าง ๆ ให้กระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้ สำหรับใครที่อยากยึดเป็นอาชีพหลักแต่ไม่รู้ว่าควรจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดี บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับอาชีพขับรถบรรทุก และจะเริ่มต้นอาชีพนี้ได้อย่างไรกัน รวมทั้งกฎหมายรถบรรทุกและคุณสมบัติที่คนขับรถบรรทุกควรมีกัน การขับรถบรรทุกคืออะไร การขับรถบรรทุกหรือรถสิบล้อที่เราเห็นกัน จริง ๆ แล้วมันคืออาชีพอะไร และทำหน้าที่อะไรกันบ้าง ก่อนอื่นอาชีพนี้ มีหน้าที่ส่งสินค้า สิ่งของขนาดใหญ่ตามงานที่ได้รับมอบหมายให้ถึงจุดหมายปลายทาง หรือถึงมือลูกค้า ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากขับรถที่มีขนาดใหญ่ คนขับรถบรรทุกจึงมีหน้าที่นอกเหนือจากการขับให้ถึงจุดหมายอีกด้วย เช่น การบำรุงรักษารถ ความรู้ในเส้นทาง หรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีอีกด้วย เริ่มต้นขับรถบรรทุกเป็นอาชีพยังไงดี อยากเริ่มต้นอาชีพขับรถบรรทุก แต่ไม่รู้ว่าควรจะต้องเริ่มจากตรงไหน มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึง เช่น ใบอนุญาตต่าง ๆ กฎหมายรถบรรทุก การบำรุงรักษารถและเส้นทาง จะมีอะไรบ้างไปดูกัน หลักการฝึกอบรมขับรถบรรทุก เรียบจบวุฒิการศึกษาไหนก็สามารถขับรถบรรทุกได้ทั้งนั้น แต่ก่อนจะเริ่มทำอาชีพนี้ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการฝึกอบรมในหลักสูตรการเรียนขับรถบรรทุก หรือรถโดยสารของกรมการขนส่งก่อน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายรถบรรทุก เช่น สามารถบรรทุกของได้ไม่เกินเท่าไหร่ สามารถขับรถสิบล้อได้ตั้งแต่ช่วงเวลาไหนบ้าง เป็นต้น ใบอนุญาตขับรถบรรทุก ประเภท ท3 สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการขับรถสิบล้อ คือใบอนุญาตขับขี่ประเภท ท3 หรือใบขับขี่สำหรับขับรถลากจูงรถอื่นหรือลากล้อเลื่อนที่บรรทุกสิ่งของ โดยคนขับรถบรรทุกจำเป็นจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงจะสามารถยื่นขอใบอนุญาตขับขี่ประเภท ท3 ได้ ในกรณีที่ต้องการขับรถบรรทุก ตั้งแต่รถสิบล้อขึ้นไป ต้องยื่นขอใบอนุญาตขับรถประเภท ท3 ซึ่งเป็นใบขับขี่สำหรับรถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถลากจูง หรือรถเทรลเลอร์ โดยผู้ยื่นคำร้องขอใบขับขี่ ท3 นี้ จำเป็นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 [...]

Load More Posts